วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กลัว....

ความหวาดหวั่น พรั่นพรึง กลัวเกรง กริ่งเกรง ถือเป็นสัญชาติญาณประจำตัวสัตว์โลก เป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่เก่าแก่และมีความสำคัญเพื่อให้หลบเลี่ยงอันตรายต่อชีวิต ทำให้สามารถรอดชีวิต สืบทอดเผ่าพันธุ์ต่อไปได้

มนุษย์เราก็มีสัญชาติญาณของความกลัวเฉกเช่นเดียวกับสัตว์ แต่มีความลึกซึ้งกว่าสัตว์อื่นๆ ในสัตว์ทั่วไปมักมีความกลัวในสิ่งที่เป็นรูปธรรม แต่มนุษย์เราสามารถมีความกลัวในสิ่งที่เป็นนามธรรมได้ด้วย ซึ่งนี่เป็นผลมาจากวิวัฒนาการทางสมอง การเรียนรู้ ประสบการณ์ การหล่อหลอมจากสังคม

ในสัญชาติญาณความกลัวในสิ่งที่เป็นนามธรรมนั้นเป็นเรื่องน่าสนใจมาก แม้ความกลัวเหล่านั้นอาจไม่ได้ส่งผลร้ายแรงถึงตาย แต่เป็นเพราะความกลัวบางอย่างส่งผลต่อระดับของจิตใจ ระดับของจิตวิญญาณ ความเป็นไปของสังคม นี่จึงเป็นอะไรที่ซับซ้อน น่าค้นหา น่าเรียนรู้เป็นอย่างมาก...

ความกลัวในสิ่งที่เป็นนามธรรม เช่น กลัวเสียผลประโยชน์ กลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวเทคโนโลยี กลัวใจตัวเอง กลัวการเสื่อมยศ กลัวเสียอำนาจ กลัวเสียความรัก กลัวเป็นภาระ กลัวจะเหงา กลัวฟุ้งซ่าน ฯลฯ มีอีกมากมาย บางอย่างมันก็คล้ายจะจับต้องได้ เหมือนเป็นรูปธรรม แต่ว่ามันจะนามธรรมหรือไม่ มันไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับบทความนี้เลยครับ

บทความนี้อยากนำเสนอแง่คิดกับคุณผู้อ่านให้ได้พิจารณาในสิ่งที่คุณผู้อ่านกลัวตามความเป็นจริง ความกลัวในสิ่งนามธรรมนั้น มันก็บอกอยู่ว่ามันเป็นสิ่งสมมุติที่จับต้องมิได้ และแม้สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นก็ไม่ทำให้คุณบอบช้ำถึงตาย เว้นเสียแต่คุณจะทำตัวคุณเอง แต่สิ่งที่อันตรายคือ มันมักจะสร้างบาดแผลไว้ในใจ ซึ่งถ้ารักษาเองไม่ได้ก็จะเป็นแผลสาหัสและติดในใจไปแสนนาน ดังนั้นจึงต้องรู้ว่าจะรักษาแผลใจอย่างไร ต้องมีความเข้มแข็งให้เพียงพอที่จะรับศึกนี้ให้ได้ และต้องทำได้ ทำสำเร็จเท่านั้น ท่องไว้ครับ

เนื่องจากมันจะยาวเกินจะลากมาชำแหละความกลัวทีละตัว จึงขอกล่าวโดยรวมๆว่า ความกลัวเหล่านี้เป็นอารมณ์ ไม่ใช่สัญชาติญาณ เราจึงสามารถปฏิเสธความกลัวนี้ได้ครับ เราทำได้โดยการตั้งสติให้มั่น ตั้งความคิดให้ถูก จ้องตากับความกลัวให้ดี มองนานๆ มองให้ลึก อย่าหลบตานะครับ เมื่อมองเข้าไปในแววตาของความกลัวเราจะมองทะลุไปถึงหัวใจของมันครับ ภายในหัวใจของความกลัวนั้นคุณจะเห็นชัดถึงความว่างเปล่า....

ใช่แล้วครับ! มันไม่ได้มีตัวตนมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่เราสร้างหุ่นกระบอกที่เรียกว่าความกลัวขึ้นเองแล้วเราก็เชิดมันเอง กลัวมันเองครับ

ถ้าคุณทำได้ถึงขั้นนี้ คุณจะเปลี่ยนจากความกลัวเป็นความเข้าใจแล้วล่ะครับ คุณจะเข้าใจว่าสาระสำคัญของความกลัวนั้นอยู่ที่ไหน และอะไรคือสิ่งที่ควรกลัวอย่างแท้จริง แล้วอะไรล่ะที่ควรกลัวอย่างแท้จริง?

จริงๆแล้วนี่คือบททดสอบสำหรับบทความนี้เลยครับ ถ้าคุณตอบได้โดยที่ไม่ต้องดูเฉลยจากผม ถือว่าคุณผ่านได้อย่างไร้ที่ติ เอาไป 5 ดาวเลยครับ สุดยอดมาก

แต่ถ้าใครยังตอบไม่ได้ อย่าเพิ่งรีบร้อนนะครับ หามันให้เจอให้ได้ บททดสอบนี้ไม่มีเวลามาจำกัดจินตนาการของคุณ หาเจอแล้วมาตรวจคำตอบก็ไม่สายครับ รับไป 4 ดาว

ส่วนใคร เปิดเฉลยเลย โดยไม่พยายาม ผมเสียใจกับคุณอย่างสุดซึ้ง เพราะคุณเสียเวลามานั่งอ่านเปล่าๆ และคุณไม่มีคุณสมบัติที่จะได้ดาวไปเลยซักดวงครับ

ส่วนวิธีการดูเฉลย ให้กด ctrl+F4 นาน 7 วินาที ห้ามเกินนะครับ (ของมันมีอาถรรพ์) แล้วเมื่อครบพอดีมันจะปรากฏสู่สายตา
...
...
...
...
...
...
...
ใครทำตามนะถือว่าคุณไร้สติ เชื่อตามโดยมิไตร่ตรองขอริบดาวคืน 1 ดวงครับ
วิธีดูเฉลย ง่ายๆแค่ ทำแถบดำใต้บรรทัดนี้ก็จะเห็นคำตอบครับ
สิ่งที่ควรกลัวมากที่สุดคือ "การกล้าประพฤติชั่วโดยไตร่ตรอง" ครับ


วิรุฬห์บัณฑิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น